05.00 น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ขาออก ชั้น 4 ประตู 7 ROW P สายการบินเจแปน แอร์ไลนส์ JAPAN AIRLINES (JL) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
08.05 น. ออกเดินทางสู่ เมืองนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบิน JL708 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
15.55 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ประเทศญี่ปุ่น พบการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่ (เวลาท้องถิ่นที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง) นาริตะ เป็นเมืองในจังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ให้บริการสำหรับพื้นที่ของกรุงโตเกียวและเมืองโดยรอบ หลังจากผ่านขั้นตอนของกรมศุลกากรเรียบร้อยแล้ว
เย็น บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ เมืองนิกโก้ ตั้งอยู่ในจังหวัดโทจิงิ เป็นเมืองท่ามกลางทิวเขาแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และยังเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมงดงามประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของเมืองนี้
ชมน้ำตกเคง่อน ตั้งอยู่ภายในเมืองนิกโก้ จังหวัดโทจิงิ มีความสูง 100 เมตร เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก จนติด 1 ใน 3 ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น สำหรับน้ำตกนี้มีเส้นทางมาจากทะเลสาบชูเซนจิ มีจุดชมวิวฟรี แต่สำหรับจุดชมวิวที่สวยงามโดดเด่นจะอยู่บริเวณชั้นล่างของน้ำตกซึ่งจะต้องลงลิฟท์มาอีก 100 เมตร โดยสามารถชมวิวทั้งสองอย่างได้พร้อมๆกันทั้งทะเลสาบและน้ำตก (ไม่รวมค่าบริการขึ้นลิฟท์ท่านละ 550 เยน)
ทะเลสาบชูเซนจิ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองนิกโก้ ภายในจังหวัดโทจิงิ โดยทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณฐานภูเขาไฟนันไต ทะเลสาบแห่งนี้เกิดขึ้นจากการระเบิดเมื่อประมาณ 20,000 ปีที่แล้ว บริเวณชายฝั่งชูเซนจิโกะ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะสวยงามเป็นพิเศษด้วยทัศนียภาพของต้นไม้ ใบไม้บนภูเขาที่ผลัดกันเปลี่ยนสี ในช่วงฤดูร้อนก็จะมีอากาศเย็นสบายไม่เหมือนที่อื่นๆเนื่องจากเป็นพื้นที่สูง 1,269 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล อิสระให้ท่านถ่ายภาพตามอัธยาศัย
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ศาลเจ้าโทโชกุ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองนิกโก้ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับท่านโทกูงาวะ อิเอยาสุ บุคคลในประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น เป็นศาลเจ้าที่มีอายุกว่า 260 ปี ถูกสร้างขึ้นในสมัยเอโดะ มีเทพเจ้าประจำศาลคือท่านโทกูงาวะ อิเอยาสุ โชกุนคนแรกของรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ ซึ่งได้ทุ่มเทในการพัฒนาประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก อาคารต่างๆของศาลเจ้าในปัจจุบัน ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ โดยโชกุนรุ่นที่ 3 อาคารในศาลเจ้ามีทั้งหมด 55 หลัง เช่น โยเมมง เป็นวิหารหลัก (สมบัติของชาติ) สิ่งก่อสร้างแต่ละแห่ง ได้ถูกปรับปรุงให้ดูสวยงาม หรูหราเป็นประกายเหมือนใหม่อย่างดีที่สุด ในเดือนธันวาคม ปี 1999 ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม สถานที่เยี่ยมชมที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาถึงศาลเจ้าโทโชกุแห่งนี้ ได้แก่ (รวมค่าเข้าชม)
โกะจูโท (เจดีย์ห้าชั้น) เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เจดีย์นี้มีความสูง 35 เมตร มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้สีแดงเป็นหลักในการตกแต่งภายนอก เดิมทีถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1650 ต่อมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ทำให้ถูกเผาในปี 1815 หลังจากนั้นมีการบูรณะในปี 1818 และอยู่มาจวบจนปัจจุบัน
ชินคิวชะ : ซันซารุ (คอกม้าศักดิ์สิทธิ์และลิงสามตัว) ชินคิวหมายถึงคอกม้าที่ม้าเทพพำนักอยู่ ในตอนที่ท่านอิเอยาสุได้มาเป็นเทพประจำศาลเจ้า ม้าของท่านได้รับการยกย่องให้เป็นม้าเทพ ตามช่องว่างของอาคารมีการแกะสลักลิง 8 ตัว ที่วิจารณ์การใช้ชีวิตของมนุษย์ โดยรูปสลักนี้ถูกสลักตามความเชื่อในอดีตที่ว่าลิงจะช่วยปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของม้า โดยมีลิง 3 ตัวที่ปิดหู ปิดปาก ปิดตา ด้วย 2 มือ “ลิงที่ไม่มอง , ลิงที่ไม่พูด , ลิงที่ไม่ฟัง” อันโด่งดัง ก็รวมอยู่ด้วย
โยเมมง เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของศาลเจ้าโทโชกุ มีความสูง 11 เมตร ประดับประดาไปด้วยรูปสลักกว่า 508 รูป ถูกประดับไปด้วยทองคำเปลว มีการแกะสลักแม้กระทั่งในจุดเล็กๆ น้อยๆ ถึงกับได้ชื่อว่า ฮิกุระชิ โนะ มง แปลว่า ประตูตลอดวัน
เดินทางสู่ อิออนมอลล์ คือห้างที่รวมเอาซุปเปอร์มาร์เก็ตและช้อปปิ้งมอลล์ไว้ด้วยกัน มีสาขาอยู่มากมายทั่วประเทศญี่ปุ่น และเนื่องจากมีสินค้าหลากหลายครบครันตั้งแต่เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม สินค้าซักกะ เครื่องใช้ไฟฟ้า หนังสือ ยาชนิดต่างๆ ตลอดจนสินค้าประเภทอาหาร จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อของชิ้นใหญ่ หรือของที่ระลึก ของฝากคราวละมากๆ บางสาขาจะมีบริการเคาน์เตอร์คืนภาษีที่ และมีบริการกล่องสำหรับแพ็คให้ฟรีด้วย
ค่ำ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชมเทศกาลดอกซากุระ มัตสึดะ ซึ่งจัดขึ้นที่สวนสาธารณะนิชิฮิราฮาตะ บนเนินเข้าเมืองมัตสึดะ จังหวัดคานากาว่า ซึ่งเป็นสถานที่แรกๆที่ได้ชมซากุระก่อนใคร เพราะโดยปกติแล้วดอกซากุระจะบานช่วงกลางเดือนมีนาคม - กลางเดือนเมษายน ดอกซากุระที่บานเร็วในช่วงฤดูหนาวนี้ เรียกกันว่า Hayazaki Sakura ซึ่งที่มัตสึดะแห่งนี้จะมีดอกซากุระมากกว่า 260 ต้น เป็นซากุระ 2 สายพันธุ์ ได้แก่ โคซุซากุระ และ คาวาซึซากุระ จะมีดอกสีชมพูเข้ม และนอกจากนี้ยังมีแปลงดอกนาโนะฮานะสีเหลืองสดใสบานสะพรั่งใกล้ๆรองรับนักท่องเที่ยวทั่วทั้งเนินเขาอีกด้วย ซึ่งสถานที่แห่งนี้ดอกซากุระจะมีให้ชมตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ – ต้นเดือนมีนาคม เป็นต้นไป
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม ปราสาทโอดาวาระ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นครั้งแรกกลางศตวรรษที่ 15 เคยถูกใช้เป็นฐานที่ตั้งของตระกูลโฮโจะ ผู้ปกครองโอดาวาระ เป็นระยะเวลายาวนาน ต่อมาปราสาทได้พังทลายลงจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปีค.ศ. 1960 ตามแบบที่เขียนขึ้นในยุคเอโดะ ตัวปราสาทในปัจจุบัน หากมองจากภายนอกจะเห็นว่ามี 3 ระดับ 4 ชั้น แต่ภายในแบ่งออกเป็น 5 ชั้น รอบตัวปราสาทล้อมด้วยคูน้ำและประตูป้อมปราการ เพียงเข้ามาเดินชมภายในก็เหมือนได้ย้อนกลับไปในอดีตอย่างน่าแปลกใจ (ไม่รวมค่าเข้าชมปราสาท)
นำท่านอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ณ โกเทมบะเอ้าท์เล็ต ซึ่งเป็นเอ้าท์เล็ตบรรยากาศแบบเอ้าท์ดอร์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น มีร้านค้าให้เลือกซื้อสินค้ามากกว่า 200 ร้านและศูนย์อาหาร โดยร้านค้าต่างๆล้วนเป็นของพรีเมี่ยมแบรนด์จากต่างประเทศ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม พิเศษ เมนูบุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม หมู่บ้านน้ำใสโอชิโนะฮัคไค ตั้งอยู่ในจังหวัดยามานาชิ เป็นหมู่บ้านเล็กๆเก่าแก่ในบริเวณทะเลสาบทั้ง 5 รอบภูเขาไฟฟูจิ ภายในหมู่บ้านมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่จำนวน 8 บ่อ ผุดขึ้นมาตามธรรมชาติโดยเกิดจากหิมะที่ละลายจากเนินภูเขาไฟฟูจิที่อยู่ใกล้ ๆ ซึ่งกรองจากภูเขาผ่านชั้นลาวาที่มีรูพรุนมานานกว่า 80 ปี ส่งผลทำให้น้ำนั้นใสกว่าน้ำปกติจนสามารถมองเห็นก้นบ่อได้และเป็นที่เคารพของคนท้องถิ่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อิสระให้ท่านเดินชมหมู่บ้านตามอัธยาศัยพร้อมกับลิ้มลองอาหารท้องถิ่นของชาวบ้านในหมู่บ้านซึ่งมีวางขายตามหน้าบ้านและทางเข้าหมู่บ้านอย่างไม่ขาดสาย
กิจกรรมชงชาญี่ปุ่น เป็นศูนย์การเรียนรู้วิธีการชงชาญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ซึ่งการดื่มชาเป็นธรรมเนียมดั้งเดิมของญี่ปุ่น และมีวิธีการชงที่แตกต่างกันออกไป โดยจะมีเซนเซมาสอนให้ความรู้วิธีการชง เริ่มต้นตั้งแต่การวอมอุปกรณ์ การชง จนไปถึงวิธีการดื่มที่ถูกต้อง และสถานที่แห่งนี้ภายในชั้นล่างยังเป็นร้านค้าปลอดภาษี เช่น วิตามินบำรุงสุขภาพ สรรพคุณหลากหลายชนิด และสินค้าชื่อดังของ ญี่ปุ่น โฟมล้างหน้าถ่านหินภูเขาไฟ และ KAREN Special Set และอื่นๆอีกมากมาย สามารถเลือกซื้อเป็นของฝากได้ตามอัธยาศัย
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านสู่กระเช้าคาจิ คาจิ เป็นกระเช้าสำหรับขึ้นชมภูเขาไฟฟูจิและริมทะเลสาบคาวากูจิโกะ มีระยะทาง 400 เมตร ซึ่งเชื่อมต่อชายฝั่งตะวันออกของทะเลสาบคาวากูจิโกะกับดาดฟ้าชมวิวใกล้ยอดภูเขาเทนโจด้วยความสูงประมาณ 1,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งมีทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลสาบด้านล่างรวมกับภูเขาไฟฟูจิ
อิสระช้อปปิ้งย่านชินจูกุซึ่งเต็มไปด้วยห้างสินค้าแฟชั่นและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง Isetan, Takashimaya และ Marui เรียงรายกันอยู่มากมาย บริเวณทางออกฝั่งตะวันออกของสถานีชินจุกุยังมีห้างร้านให้นักท่องเที่ยวหลากหลายกลุ่มวัยได้ช้อปปิ้งกันอย่างจุใจ
เย็น อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น ชมวัดอาซากุสะ ที่มีประตูและโคมแดงยักษ์เป็นเอกลักษณ์อย่างโดดเด่นบริเวณด้านหน้าทางเข้าวัด ถูกสร้างขึ้นเสร็จเมื่อประมาณปี ค.ศ. 645 ตามตำนานเล่าว่าเมื่อประมาณปี 628 สองพี่น้องได้ออกเรือไปตกปลา และตกรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมได้ที่แม่น้ำสุมิดะ และแม้ว่าพวกเขาจะพยายามทิ้งรูปปั้นกลับลงสู่แม่น้ำเท่าไหร่ก็ตาม รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมก็จะกลับมาหาพวกเขาอยู่เสมอ จึงได้มีการสร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม และกลายมาเป็นวัดที่นิยมอันดับหนึ่งของเมืองโตเกียวในปัจจุบัน
ถนนนากามิเสะ ตัวถนนจะมีความยาวตลอดสายประมาณ 200 เมตร ประกอบไปด้วยร้านค้ามากมาย 2 ฝั่งทางเดิน มีสินค้า ขนม อาหารและของที่ระลึกหลากหลายจำหน่ายตลอดทางเดิน ไม่ว่าจะเป็นชุดยูกาตะ, ร่มพับ, ขนมขบเคี้ยวหลากหลายชนิด เช่น ขนมมันจุหรือขนมที่มีแป้งคล้ายกับโมจิ แล้วมีไส้ข้างใน ให้เลือกกันหลากหลายแบบ โดยร้านค้าต่างๆมักจะให้ชิมก่อนที่จะซื้อได้
กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
เดินทางสู่ห้าแยกชิบูย่า ซึ่งเป็นศูนย์กลางของย่านธุรกิจสำคัญของกรุงโตเกียวที่เต็มไปด้วย ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า เสื้อผ้าแบรนด์เนมและแฟชั่นจากทั่วทุกมุมโลก ตลอดจนร้านอาหารต่างๆมากมาย ย่านนี้เป็นย่านที่ได้ชื่อว่ามีความพลุกพล่านมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยบางาช่วงเวลาจะมีคนข้ามถนนจากทิศทางต่างๆพร้อมกันสูงสุดกว่า 3,000 คน
ห้าแยกชิบูย่าแห่งนี้มีแลนด์มาร์กที่สำคัญคือรูปปั้นของสุนัขยอดกตัญญูซึ่งมีชื่อว่า ฮาจิโกะ ตั้งอยู่บริเวณทางออกของสถานีชิบูย่า ฮาจิโกะ เป็นสุนัขสายพันธุ์อากิตะที่มักจะไปรอรับเจ้านายกลับจากทำงานอยู่ตรงหน้าสถานีชิบูย่าอยู่เสมอ จนวันนั้งเจ้านายได้เสียชีวิตไป แต่ฮาจิโกะก็มักมายืนรอหน้าสถานีทุกวันเป็นเวลานานกว่า 9 ปี จนเมื่อฮาจิโกะตายไปจึงมีการสร้างรูปปั้นแห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความจงรักภักดี
เย็น อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
18.10 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินเจแปนแอร์ไลนส์ เที่ยวบินที่ JL707 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
23.35 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
110/59 หมู่.4 หมู่บ้าน Pruksa Avenue ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ